ธรรมะ

ให้เรตสมาชิก: 4 / 5

ดาวใช้งานดาวใช้งานดาวใช้งานดาวใช้งานดาวไม่ได้ใช้งาน

พระเจ้าอชาตศัตรู ทรงขอถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต 

      ตลอดเวลาแห่งการสดับพระธรรมเทศนานั้น พระเจ้าอชาตศัตรูทรงติดตามสดับตรับฟังด้วยความสนพระทัยเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากพระสัมมาสัมพุทธ

เจ้าจะทรงตอบปัญหาได้ตรงประเด็น ตามที่พระเจ้าอชาตศัตรูทรงกระหายใคร่รู้มานานนักหนาแล้ว  วิธีการตอบของพระพุทธองค์ยังสมบูรณ์บริบูรณ์พร้อมด้วย

ศิลปะ สามารถยังผลให้พระเจ้าอชาตศัตรูทรงตรองตามด้วยเหตุผลอย่างต่อเนื่อง โดยปราศจากความกังขา ทั้งทรงรู้สึกทึ่งในคุณวิเศษอันน่าอัศจรรย์ใจของพระ

ธรรมคำสั่งสอนอีกด้วย ยังความปิติเบิกบานมาสู่พระองค์ยิ่งนักจึงได้กราบทูลสรรเสริญพระพุทธองค์ว่า

ดาวไม่ได้ใช้งานดาวไม่ได้ใช้งานดาวไม่ได้ใช้งานดาวไม่ได้ใช้งานดาวไม่ได้ใช้งาน

การบรรลุมรรคผลนิพพาน : สามัญญผลลำดับที่ ๘

 

       เมื่อผู้เจริญภาวนาสามารถประคองจิตให้เป็นสมาธิแน่วแน่ยิ่งขึ้นต่อไปอีก จิตย่อมบริสุทธิ์หมดจดจากกิเลสและอุปกิเลสโดยสิ้นเชิง จิตจึงผ่องแผ้วสว่างไสวถึงที่สุด ยังผลให้บรรลุญาณอันหยั่งรู้อริยสัจ ๔ รู้ว่าจิตของตนหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะทั้งปวงแล้ว นั่นคือบรรลุอรหัตตผล ซึ่งเป็นสามัญญผลขั้นสูงสุด ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสกับพระเจ้าอชาติศัตรูดังนี้

ให้เรตสมาชิก: 5 / 5

ดาวใช้งานดาวใช้งานดาวใช้งานดาวใช้งานดาวใช้งาน

สามัญญผลลำดับที่ ๕

 

 

 

      เมื่อผู้เจริญภาวนาสามารถประคองจิตให้แน่วแน่ต่อไปอีกจิตย่อมบริสุทธิ์ขึ้นอีก ผ่องแผ้วสุกสว่างขึ้นอีก ปราศจากกิเลสและอุปกิเลส จึงทวีประสิทธิภาพในการงานยิ่งขึ้นอีก ยังผลให้บรรลุญาณซึ่งกำหนดรู้ใจของผู้อื่น หรือสัตว์อื่น เช่นรู้ว่าผู้อื่นกำลังคิดอะไรอยู่ รู้ว่าบุคคลใดมีภูมิหรือชั้นแห่งจิตอยู่ในระดับใดมีสมาธิหรือไม่ ดังมีเรื่องปรากฏอยู่ในอาฬวกสูตรว่า

ดาวไม่ได้ใช้งานดาวไม่ได้ใช้งานดาวไม่ได้ใช้งานดาวไม่ได้ใช้งานดาวไม่ได้ใช้งาน

สามัญญผลลำดับที่ ๔

 

      เมื่อผู้เจริญภาวนาบรรลุ “อิทธิวิธี” แล้ว ถ้ายังสามารถประคองจิตให้เป็นสมาธิแน่วแน่ต่อไปอีก จิตย่อมบริสุทธิ์ขึ้นผ่องแผ้วสุกสว่างขึ้นอีก ปราศจากกิเลสและอุปกิเลส จึงทวีประสิทธิภาพในการงานยิ่งขึ้นอีก ยังผลให้บรรลุญาณซึ่งสามารถฟังอะไรได้ยินหมดตามความปราถนา ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสกับพระเจ้าอชาตศัตรูว่า

ดาวไม่ได้ใช้งานดาวไม่ได้ใช้งานดาวไม่ได้ใช้งานดาวไม่ได้ใช้งานดาวไม่ได้ใช้งาน

 สามัญญผลลำดับที่ ๓

 

 

 

      เมื่อผู้เจริญภาวนาบรรลุ “มโนมยิทธิ” แล้ว ถ้ายังสามารถประคองจิตใจให้เป็นสมาธิแน่วแน่ต่อไปอีก จิตยอมบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น ผ่องแผ้วสุกสว่างยิ่งขึ้น ย่อมปราศจากกิเลสและอุปกิเลส จึงมีประสิทธิภาพในการงานยิ่งขึ้นอีกหากน้อมจิตไปเพื่อให้ได้ฤทธิ์ก็จะบรรลุอิทธิฤทธิ์สูงขึ้นกว่าสามัญญผลลำดับที่ ๒ จึงสามารถแสดงปาฏิหาริย์ได้มากขึ้น เช่น นิรมิตคนเดียวให้เป็นหลายคนก็ได้ หลายคนให้เป็นคนเดียวก็ได้ ล่องหนหายตัวก็ได้ หรือเหาะเหินเดินอากาศก็ได้ ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสกับพระเจ้าอชาตศัตรูว่า

หมวดหมู่รอง

ค้นหา

ยอมรับเงื่อนไข ข้อมูลส่วนบุคคล